จากกรณีพลเมืองดีพาชายวัยรุ่นรายหนึ่ง เข้าแจ้งความที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี ภายหลังชายรายดังกล่าวถูกผู้หญิง ซึ่งรู้จักผ่านแอปฯ หาคู่ หลอกพาไปเปิดห้องพักรายวัน ก่อนจะฉกโทรศัพท์ไอโฟนพร้อมด้วยทรัพย์สินมูลค่ารวม 50,000 บาท หนีไป
โดยเหตุเกิดในโรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ถนนแสนสุขสาย 2 จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยคาดว่า ผู้ก่อเหตุมีการวางแผนมาอย่างดีและน่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ล่าสุดวันที่ 20 ม.ค.66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่โรงแรมจุดเกิดเหตุ ตั้งอยู่ถนนแสนสุขสาย 2 ซึ่งเปิดแบบทั้งรายเดือนและรายวัน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมจับภาพเวลา 18.06 น. ผู้เสียหายและหญิงผู้ก่อเหตุนั่งรถเก๋งมาลงที่หน้าอพาร์ตเมนต์ก่อนเดินเข้าไปด้านใน
เวลา 18.08 น. กล้องอีกตัวในอพาร์ตเมนต์ จับภาพผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเดินไปติดต่อหน้าเคาน์เตอร์ ฝ่ายชายโอนเงินจ่ายค่าห้องพักจำนวน 800 บาท ฝ่ายหญิงหยิบเงินสดจ่ายมัดจำ 500 บาท ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปขึ้นลิฟต์ ขณะที่กล้องหน้าห้องพัก เวลา 18.12 น. ผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเดินขึ้นไปที่ห้องพัก
กล้องหลังหอพัก เวลา 18.42 น. บันทึกภาพรถกระบะสีดำขับมาจอด จากนั้นชายแต่งกายคล้ายแกร็บ เดินถือถุงบางอย่างลงมาจากรถ เวลา 18.51 น. ชายรายเดิมเดินกลับไปที่รถก่อนจะขับรถออกมาทางด้านหน้าหอพัก เวลา 18.53 น. รถสีดำมาจอดหน้าหอพักแกร็บลงมาจากรถเดินมานั่งที่ล็อบบี้ โดยมีการถ่ายภาพหอพักและคุยแชตตลอดเวลา เวลา 19.04 น. ผู้เสียหายเดินออกมาจากห้องพัก เวลา 19.05 น. ผู้ก่อเหตุออกมาจากห้องพัก โดยสะพายกระเป๋าของผู้เสียหายออกมาด้วย
กล้องชั้นล่าง เวลา 19.04 น. ผู้เสียหายออกมารับของจากแกรบ ใช้เวลาประมาณ 2 นาที ก่อนผู้เสียหายจะเดินกลับไปที่ลิฟต์ เมื่อผู้เสียหายขึ้นลิฟต์ไป ผู้ก่อเหตุก็วิ่งลงมาทางบันไดและกดลิฟต์ลักษณะให้ลิฟต์ลงมาชั้นล่างเพื่อยื้อเวลา ก่อนจะวิ่งออกมาข้างนอก โดยจังหวะนี้จะเห็นว่าแกร็บเดินไปขึ้นรถก่อนสตาร์ทรถและผู้ก่อเหตุก็วิ่งไปขึ้นรถก่อนจะขับออกไป
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายบอย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า ตนได้คุยกับผู้หญิงอ้างว่า ชื่อ น.ส.เพลง อายุ 27 ปี ผ่านแอปฯ หาคู่ โดยคุยกันประมาณ 5 วัน ไม่เคยเจอกัน จนเมื่อวานนี้ น.ส.เพลง บอกตนว่าว่างให้ไปเจอได้ที่คอนโดในกรุงเทพ แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจบอกว่ามีงานเข้ามาต้องไปคุยงานที่บางแสน จ.ชลบุรี และพยายามหว่านล้อมให้ตนไปด้วยกัน บอกว่านาน ๆ จะว่างตรงกัน ตนจึงตัดสินใจไปด้วย
จากนั้นก็นัดเจอ น.ส.เพลง ที่ห้างย่านรัชดา ก่อนจะนั่งแกร็บคาร์ไปที่โรงแรมเกิดเหตุ จ.ชลบุรี โดยถึงที่โรงแรมในเวลา 18.00 น. ซึ่ง น.ส.เพลง เป็นคนจ่ายค่ารถประมาณ 1,000 บาท เมื่อลงรถ น.ส.เพลง เป็นคนจัดการเรียก รปภ. มาเปิดห้อง โดยตนจ่ายค่าห้อง 800 บาท ส่วน น.ส.เพลง จ่ายค่ามัดจำห้อง 500 บาท
ระหว่างนั้น น.ส.เพลง ก็นั่งไลฟ์สด อ้างว่าต้องทำงานและขอยืมโทรศัพท์มือถือของตนไปใช้ บอกว่าต้องใช้ทำงานอีกเครื่อง โดยขอให้ตนปลดล็อกหน้าจอไว้ให้จะได้สะดวกเวลาทำงาน ตนก็ปลดล็อกไว้ให้ไม่ได้เอะใจ จนเวลาประมาณ 19.00 น. น.ส.เพลง บอกว่าให้ตนลงไปเอาของสั่งแกร็บมาส่ง พร้อมให้เงินมา 200 บาท บอกว่าของที่สั่งมีผ้าอนามัยเพราะเป็นประจำเดือนและขนม ตนจึงลงไปเอาของโดยไม่ได้หยิบมือถือลงมาด้วย
เมื่อลงมาถึงพบว่า แกร็บดูท่าทีร้อนรน พยายามทวนรายการที่สั่งและให้เงินทอนตนช้ามาก จนได้เงินทอนครบตนก็กดลิฟต์ขึ้นไปที่ห้อง เมื่อเปิดห้องพบว่า น.ส.เพลง ไม่อยู่แล้ว ข้าวของของเจ้าตัวก็หายไปหมด รวมถึงโทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 promax ของตนด้วย เหลือแค่ถุงใส่เสื้อผ้าของตนที่วางไว้ ตอนนั้นคิดในใจว่าโดนแล้ว
ตนจึงรีบวิ่งลงมาถาม รปภ. แต่ รปภ. ก็บอกว่าไม่เห็น น.ส.เพลง จนมีวินมอเตอร์ไซค์ช่วยเหลือพาไปแจ้งความที่ สภ.แสนสุข หลังจากนั้นก็กลับมาที่ห้องและนั่งรถกลับมากรุงเทพฯ โดยทรัพย์สินที่หายไปมีโทรศัพท์ไอโฟน 14 Promax ราคาเกือบ 50,000 บาท เพิ่งซื้อมา 3 เดือนเท่านั้น หลังเกิดเหตุตนเข้าไปอายัดบัญชีธนาคารที่ผูกไว้กับโทรศัพท์ด้วย ทางเจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่มีการโอนเงินออก
ทั้งนี้มองว่า น.ส.เพลง น่าจะทำมาหลายรอบแล้วเพราะดูชำนาญมาก และสอบถามจากตำรวจระบุว่า มีเคสลักษณะเดียวกับตนเกิดขึ้น 2-3 รอบแล้วในช่วงเดือนที่ผ่านมา ยืนยันตนจะเอาเรื่อง น.ส.เพลง ให้ถึงที่สุด ยอมรับที่ผ่านมาเล่นแอปฯ หาคู่ และนัดเจอผู้หญิงแต่ไม่เคยไปไกลข้ามจังหวัดและไม่เคยถูกหลอกแบบนี้
ด้าน นายไชยเชษฐ์ ก้านอินทร์ อายุ 38 ปี วินรถจักรยานยนต์รับจ้างพลเมืองดี เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 66 เวลาประมาณ 21.00 น. ตนเห็นชายรายหนึ่งดูท่าทีร้อนรนวิ่งลงมาจากอพาร์ตเมนต์ย่านถนนแสนสุขสาย 2 บางแสน จ.ชลบุรี ตนจึงเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง โดยผู้เสียหายบอกว่า ถูกผู้หญิงขโมยโทรศัพท์มือถือและทรัพย์สินต่าง ๆ ไปรวม 50,000 บาท ตนสอบถามรายละเอียดทราบว่า รู้จักกับผู้หญิง 5 วัน ผ่านแอปฯ หาคู่ จนเมื่อวานนี้ผู้หญิงอ้างว่าต้องมาทำงานที่บางแสน ผู้ชายจึงมาด้วย เมื่อมาถึงก็เปิดห้องพักรายวัน และผู้หญิงบอกให้ลงมาเอาของที่สั่งให้แกร็บมาส่ง เมื่อลงมาเอาของและกลับขึ้นไปบนห้องปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือและทรัพย์สินหายไปแล้ว จึงรู้ว่าถูกผู้หญิงหลอก
โดยตนได้ให้ยืมโทรศัพท์โทรเข้าเบอร์ตัวเองที่หายไป ปรากฏว่ารอบแรกโทรติดแต่ไม่มีคนรับ รอบที่สองโทรศัพท์ปิดเครื่อง
ตนจึงพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.แสนสุข โดยไม่คิดเงินด้วยความสงสาร หลังจากนั้นผู้เสียหายก็กลับมาที่ห้องพักและเช็กเอาท์ออกไป
ทีมข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแสนสุข ระบุว่า เบื้องต้นรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว เนื่องจากเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาหลายครั้ง มีผู้เสียหายมาแจ้งความที่ สภ.แสนสุข ประมาณ 4 คน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน จึงเชื่อว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุเมื่อคืนนี้ ตอนนี้เตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุ คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้
