หนุ่มลูกเศรษฐี ที่แท้เป็นเด็กถูกลักพาตัว ได้กลับไปอยู่กับพ่อแม่แท้ ๆ ที่ก็รวยเหมือนกัน

          เปิดชีวิตหนุ่มทายาทมหาเศรษฐี ที่แท้เป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวมา จนในที่สุดก็ได้กลับไปอยู่กับพ่อแม่แท้ ๆ ที่รวยเหมือนกัน เจ้าตัวเผยแม้มีเงินก็ซื้อความสุขไม่ได้

          ย้อนกลับไปเมื่อปี 2540 เหม่ยจือเฉียงในวัย 2 ขวบกำลังเล่นอยู่นอกบ้านของเขาที่มณฑลยูนนาน ของจีน ก่อนจะถูกคนร้ายลักพาตัวไปขาย อย่างไรก็ตามครอบครัวที่ซื้อตัวเด็กชายมาจากกลุ่มค้ามนุษย์ กลับนำเขาไปทิ้งเพราะคิดว่าเด็กคนนี้ตัวเล็กและผอมเกินไป

          แม้จะโชคดีที่ได้เจอคู่สามีภรรยามหาเศรษฐีรับมาเลี้ยงเป็นลูก แต่เมื่อเทียบกับพี่สาวทั้ง 2 คน และน้องชายอีก 1 คน ซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรม เหม่ยจือเฉียงยังคงมีความรู้สึกติดอยู่ในใจเสมอ ว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของทั้งคู่

          เหม่ยจือเฉียงไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย และเข้าทำงานในโรงพยาบาลของพ่อแม่บุญธรรมทันที เพราะทั้งคู่มองว่า “การเรียนนั้นไร้ประโยชน์” ดังนั้นแม้เขาจะมีชีวิตที่สุขสบาย ไม่ได้ลำบากอย่างเช่นเหยื่อของแก๊งค้ามนุษย์หลาย ๆ คน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะสุขใจ

ภาพจาก Weibo

          ขณะที่ เหม่ยเสียนฮวา และ พานชางเอ๋อ พ่อแม่แท้ ๆ ของเหม่ยจือเฉียง ต่างก็ใช้ความพยายามอย่างมากในการออกตามหาลูกชายที่หายไป มันเป็นภารกิจอันยาวนานกว่า 20 ปี แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยยอมแพ้ ผู้เป็นพ่อเล่าว่าเขากับภรรยาเป็นเหมือนกับคนบ้า 2 คน ระหว่างออกตามหาลูก และทั้งครอบครัวก็ไม่เคยฉลองเทศกาลตรุษจีนได้อย่างมีความสุขสักครั้ง ตั้งแต่ลูกชายหายตัวไป

          เช่นเดียวกับพ่อแม่ พี่สาวทั้ง 2 คน รวมถึงน้องชายอีก 2 คนของเหม่ยจือเฉียง ต่างก็จัดงานฉลองวันเกิดให้แก่เขาในทุก ๆ ปี แต่ไม่มีสักคนเดียวที่กินเค้กวันเกิดนั้นได้ เพราะทุกคนต่างก็ใจสลาย ขณะที่พ่อแม่ก็เลือกที่จะซื้อบ้านเตรียมไว้ให้เขา เพราะทั้งคู่ยังเชื่อว่าสักวันหนึ่งลูกชายจะกลับมา

 และแล้วจุดจบที่แสนสุขมาเยือนในเดือนมิถุนายน 2565 เมื่อเพื่อนของพวกเขาที่อยู่ระหว่างตามหาลูกชายเช่นกัน ช่วยให้พวกเขาสามารถนำดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบข้อมูลว่าตรงกับชายหนุ่มชื่อ เหม่ยจือเฉียง ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวเศรษฐีที่มณฑลฝูเจี้ยน

          หลังทราบความจริง เหม่ยจือเฉียงตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่กับพ่อแม่แท้ ๆ และย้ายมาทำงานที่บริษัทเกี่ยวกับของใช้ในโรงแรม ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว โดยพ่อของเขามีความมุ่งมั่นที่จะสอนวิธีการทำธุรกิจแก่ลูกชายคนโต เพื่อส่งมอบกิจการที่มีอยู่ให้เขาในอนาคต
 

          “ไม่ว่าพวกเขา (พ่อแม่บุญธรรม) จะรวยขนาดไหน ความรักของพวกเขาก็แตกต่างจากพวกเรา นี่คือรักจากผู้ให้กำเนิด” เหม่ยเสียนฮวา กล่าว

          ในขณะที่เหม่ยจือเฉียงเผยว่า เขาไม่มีความรู้สึกแปลก ๆ สักนิดกับครอบครัวผู้ให้กำเนิด เพราะเขามองเห็นความรักที่พ่อแม่มีต่อเขา จากนี้ไปเขาก็แค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีชีวิตธรรมดา แต่ที่เขายอมให้สัมภาษณ์สื่อ ก็เพื่อจะให้ผู้คนได้มุ่งความสนใจไปยังครอบครัวอื่น ๆ ที่ยังคงตามหาบุตรหลานที่ถูกลักพาตัวไป

          ขณะที่ชาวเน็ตต่างก็ร่วมยินดีไปกินชายหนุ่มที่ได้พบกับความสุขแล้วในตอนนี้ รวมถึงบางคนที่แสดงความแปลกใจ ว่าแม้จะมีพ่อแม่บุญธรรมเป็นมหาเศรษฐี แต่เขากลับไม่มีวัยเด็กที่มีความสุขสักเท่าไรนัก  

ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP