ในที่สุดไทยลีก 2 ก็จบกันไปแล้ว แต่ยังเหลือรอบเพลย์ออฟ หาอีก 1 ทีม ตามหลัง ลำพูน วอริเออร์ กับ สุโขทัย เอฟซี เลื่อนชั้น ซึ่งอีกประมาณ 1 สัปดาห์เราจะได้ทราบกันแล้วว่า ใครจะได้ตั๋วใบสุดท้ายกันแน่ระหว่าง ตราด เอฟซี หรือ ลำปาง เอฟซี
อย่างไรก็ตามเราพาทุกคนไปชม 11 นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2021/2022 ของสังเวียนลีกพระรอง ซึ่งเราวัดจากผลงานและความสม่ำเสมอในการลงเล่น โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นนักเตะจากทีมที่เลื่อนชั้นไปแล้ว เนื่องจากมีผู้เล่นมากมายที่ฟอร์มในสนามเฉิดฉายไม่น้อยเหลือเกิน จะมีใครบ้างไปรับชมกันครับ
ผู้รักษาประตู – กิตติพันธ์ แสนสุข (สุโขทัย เอฟซี)
มาอยู่กับทีมในซีซั่นแลก ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการแลกตัวกับ พีระพงษ์ เรือนนินทร์ ที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ตามล่าตัวมานาน ก่อนจะยึดมือหนึ่งให้กับ สุโขทัย เอฟซี ทันที แม้ว่าจะเสียไป 44 ประตู แต่ “โปเต้” ก็ลงเฝ้าเสาแทบจะทุกเกม การันตีว่า เดนนิส อมาโต กุนซือใหญ่ชาวเยอรมัน มั่นใจในตัวมือกาวรายนี้มากแค่ไหน
ฉะนั้นการเสียประตูมากกว่า ตราด เอฟซี แต่ว่าสามารถนำทีมเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดแบบอัตโนมัติ ก็ดีพอที่จะได้รับการยกย่องในส่วนนี้ เพราะทีมแชมป์ T2 อย่าง ลำพูน วอริเออร์ ก็โรเตชั่นผู้รักษาประตูตลอดฤดูกาล ทั้ง แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม และ อดิศักดิ์ ดวงศรี นายทวารมากประสบการณ์
แบ็คซ้าย – สุวิทย์ ไปพรมราช (ลำพูน วอริเออร์)
หลังถูก คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ กุนซือ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ลองสลับเปลี่ยนมาใช้ กฤษณ์พรหม บุญสาร ยืนแทนจนเสียตำแหน่งตัวจริงไป ทำให้เลกสองเขาตัดสินใจขอย้ายทีม เพื่อโอกาสพิสูจน์ตัวเอง และก็เป็น ลำพูน วอริเออร์ ที่ประสบความสำเร็จ ได้ตัว “โจ้แจ๋ว” ด้วยสัญญายืมตัวตลอดเลกสอง
แล้วเขาเองก็ไม่ทำให้แฟนบอล “ราชันโคขาว” ต้องผิดหวัง เมื่อจัดการยิง 2 ประตู และแอสซิสต์อีกเพียบ พายอดทีมจาก แม่กวง สเตเดี้ยม คว้าแชมป์ไทยลีก 2 เลื่อนชั้นสูงไทยลีก 1 ครั้งแรก ในรอบ 11 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งของสโมสร จนเวลานี้กองเชียร์ของทีมต่างเรียกร้องอยากจะให้ซื้อขาดวัยรุ่นโคกเครือมาร่วมทีมแบบถาวร
กองหลัง – อาลี ซิสโซโก้ (ลำพูน วอริเออร์)
ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านลีกแนวหน้าของยุโรป ทั้ง เอฟซี ปอร์โต้, โอลิมปิก ลียง, บาเลนเซีย จน ลิเวอร์พูล จะยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2013/14 ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ แอสตัน วิลล่า และย้ายทีมอีกครั้งไปค้าแข้งในลีกตุรกี 4 ฤดูกาล และโยกกลับไปร่วมทีมบ้านเกิดที่ฝรั่งเศสอย่าง แอแอฟเซ บลัวส์ ในฤดูกาลที่ผ่านมา
แต่การมาอยู่กับ ลำพูน วอริเออร์ ด้วยการตัดสินใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทอง เพราะเจ้าตัวต้องการมาหาความท้าทายใหม่ เขานำความเป็นมืออาชีพมาส่งต่อกับนักเตะในทีม กระทั่งถูกถอยไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟทางซ้าย พร้อมกับสร้างเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง เรียกได้ว่าสปีดเร็วกว่าหัวหอกฝั่งตรงข้ามด้วยซ้ำ
กองหลัง – แม็กซิมิเลียน ชไตน์เบาเออร์ (สุโขทัย เอฟซี)
เป็นปีที่ แม็กซิมิเลียน ชไตน์เบาเออร์ ทำผลงานในการสร้างเกมรับให้กับ “ค้างคาวไฟ” อย่างยอดเยี่ยม ลงเล่นไป 27 จาก 34 นัด ก็ตาม และทำไปถึง 6 ประตู หลังย้ายมาจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยสัญญาถาวร จนกลายเป็นตัวหลักที่ทีมจะขาดไปไม่ได้ ซึ่งถือว่าเขาเป็นส่วนสำคัญที่ลงตัวของ สุโขทัย เอฟซี อย่างแท้จริง
อดีตเยาวชนสโมสรยูเนี่ยน เบอร์ลิน ต่อมาได้ย้ายไปเล่นกับสโมสรวิคตอเรีย เบอร์ลิน,เทนนิส โบรุสเซีย เบอร์ลิน สามารถพาทีมทะยานจบรองแชมป์ไทยลีก 2 คว้าตั๋วกลับไปเล่นในลีกสูงสุดซีซั่นหน้าได้อย่าสง่างาม และสะใจแฟนบอลในทุ่งทะเลหลวงเหลือเกิน
แบ็คขวา – ศิลา ศรีกำปัง (สุโขทัย เอฟซี)
กัปตันทีมของ “ค้างคาวไฟ” มีส่วนสำคัญในการเป็นเครื่องจักรเติมเกมบุกทางริมเส้นฝั่งขวา นอกจากพลังที่วิ่งได้อย่างไม่มีหมดใน 90 นาทีแล้ว ซีซั่นที่ผ่านมา “อ๊อด” ยังซัดฟรีคิกแบบงามหยดย้อย จนช่วย สุโขทัย เอฟซี เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยการคว้าอันดับที่สองมาครอง
ภายใต้การคุมทีมของ เดนนิส อมาโต้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือจอมฟิต หากใครที่เต็มถัง 100 เปอร์เซนต์ เขาจะให้โอกาสลงเล่นเสมอ เขากลายเป็นผู้นำของทีมที่ขาดไปไม่ได้ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายสโมสร และเคยติดทีมชาติไทยชุดใหญ่มาแล้ว เชื่อว่าการกลับมาหนนี้ “กัปตันอ๊อด” จะช่วยทีมอยู่รอดได้แน่นอน
กองกลาง – เวลลิงตัน พริออรี (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
จากการผ่านร้อนผ่านหนาวมากประสบการณ์ในลีกไทย ที่เคยเล่นมาแล้วหลายสโมสรทั้ง อาร์มี่ ยูไนเต็ด, พัทยา ยูไนเต็ด ก่อนไปพเนจรค้าแข้งในหลายประเทศอาทิ บราซิล, เกาหลีใต้, อินเดีย, มาเลเซีย และล่าสุด บังคลาเทศ กับทีม ดาก้า อบาฮานี่ และกลับมาอยู่กับ ตราด เอฟซี เมื่อ 2 ซีซั่นก่อน
แล้วย้ายมาอยู่กับชัยนาท ฮอร์นบิล ในเลกที่สองของฤดูกาล 2021/2022 ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการพาทัพ “นกใหญ่พิฆาต” เข้ามาลุ้นในพื้นที่เพลย์ออฟเป็นปีที่สองติดต่อกัน แถมยังทำไปถึง 8 ประตู ในซีซั่นนี้อีกด้วย
กองกลาง – ประกิต ดีพร้อม (แพร่ ยูไนเต็ด)
หลังพา อุดรธานี เอฟซี จบที่ 3 ของเลกแรก จากนั้นได้โยกมาร่วมทีม แพร่ ยูไนเต็ด ในเลกสอง โดยที่ยอดทีมจากห้วยม้าเตรียมเสื้อหมายเลข 21 พร้อมกับปลอกแขนกัปตัน ไว้ให้กับอดีตแข้ง เมืองทอง ยูไนเต็ด, ราชประชา เอฟซี, ทีโอที เอสซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี เอาไว้ให้กับเขาด้วย
แม้ว่า 3 เกมสุดท้ายจะพลาดลงสนาม แต่เขาเป็นส่วนสำคัญในการช่วยทีมให้เข้าไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ปีที่สองติดต่อกัน น่าจับตาว่ากองกลางทีมชาติไทย ชุดแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 และ 2016 จะนำประสบการณ์มาช่วยยกระดับสโมสรแห่งนี้ไปได้สูงถึงเพียงไหน
กองกลาง – หม่อง หม่อง ลวิน (ลำพูน วอริเออร์)
นี่คือดีลที่ในตอนแรกหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ลำพูน วอริเออร์ ไปเอานักเตะเพื่อนบ้านอย่าง หม่อง หม่อง ลวิน ตัวรุกทีมชาติเมียนมา ชุดเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ มาทำไม ทว่าเขากลับกลายเป็นคีย์แมนหลักของ “ราชันโคขาว” ที่สามารถพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ไทยลีก 2 ครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร
ด้วยการลงสนาม 14 นัด ยิง 4 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ นี่คือปรากฏการณ์ของแข้งอาเซียน ที่ระเบิดออกมาในช่วงแค่เพียงเลกสองเท่านั้น จากผลงานเช่นนี้ทำให้ “บอสตาล” พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ประธานสโมสร ลำพูน วอริเออร์ ยืนยันว่า จะเก็บสตาร์จากแดนหม่อง ไปเจิดจรัสในลีกสูงสุดอย่างแน่นอน
กองหน้า – อนันต์ ยอดสังวาลย์ (ลำพูน วอริเออร์)
นี่คือนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ของไทยลีก 2 นามว่า อนันต์ ยอดสังวาลย์ หรือ “โฟแบร์” ปีกจอมลากเลื้อยของทัพ “ราชันโคขาว” ที่ทำผลงานโดดเด่นเหลือเกินกับวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น ด้วยการยิงไปทั้งหมด 3 ประตู พร้อมทั้งพาลำพูน วอริเออร์ เถลิงแชมป์และได้สิทธิ์เลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติไปครองอีกด้วย
นอกจากนี้ผลงานส่วนตัวของเขากับทาง ลำพูน วอริเออร์ ยังกดไปทั้งหมด 11 ประตู เรียกว่าเป็นซีซั่นที่ลีกพระรองต้องจดจำเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นจากฟุตบอลเดินสาย และก้าวมาสู่ลีกอาชีพอย่างเต็มตัวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้อย่างรู้ซึ้งถึงความไม่ธรรมดาของฝีเท้าอย่างแท้จริง
กองหน้า – ทาเลส ลิมา (ลำพูน วอริเออร์)
อีก 1 จิ๊กซอว์ที่ตอบโจทย์สู่การเลื่อนชั้นของ ลำพูน วอริเออร์ สำหรับ ทาเลส ลิมา หลังย้ายเข้ามาในเลกสอง ซึ่งยิงรวมกับที่ซัดให้ อุดรธานี เอฟซี ในซีซั่นนี้ไปถึง 22 ประตู เขาเองมีความคุ้นเคยกับไทยลีก 2 อยู่แล้วตั้งแต่ปี 2017 ที่อยู่กับ ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร ก่อนไป แพร่ ยูไนเต็ด, ขอนแก่น เอฟซี และอุทัยธานี เอฟซี
ทำให้เขาช่ำชองกับการลงสนามในสมรภูมิลีกรองอย่างมาก ฤดูกาลนี้ด้วยความฟิตที่เต็มถัง ทำให้จำนวนสกอร์ถล่มตาข่ายผลิตออกมาเยอะมากๆ จนคว้าดาวซัลโวไปครองอย่างสง่างาม ซึ่ง “บอสตาล”พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ประธานสโมสร ลำพูน วอริเออร์ ยืนยันจะเก็บเขาเอาไว้ใช้ต่อไปเช่นเดียวกัน
กองหน้า – เปาโล คอนราโด้ (ตราด เอฟซี)
แม้จะรับค่าเหนื่อยที่น้อยกว่าทีมอื่นๆ ที่เคยเสนอมาให้ แต่หัวหอกชาวบราซิลกลับตอบแทนผลงานด้วยการเล่นที่คุ้มค่าให้กับ ตราด เอฟซี เมื่อแผลงฤทธิ์แบบต่อเนื่อง ด้วยการยิงไป 17 ประตู จาก 30 เกม แม้สุดท้ายทีมต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ หาอีก 1 สโมสรเลื่อนชั้นไปลีกสูงสุดก็ตาม
แต่สิ่งที่อดีตดาวซัลโวในลีกรอง ที่เคยสร้างผลงานยิง 26 ประตูให้กับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ผลิตออกมา เป็นการตอกย้ำว่าเขาเองเหมาะสมกับลีกฟุตบอลไทยอย่างมาก ซึ่งเวลานี้มีบิ๊กทีมในไทยลีกจ่อคว้าตัวกองหน้าของ “ช้างขาวจ้าวเกาะ” รายนี้ไปร่วมทีมในฤดูกาลหน้าแล้วด้วย