บางแสน ชลบุรี

รวบสาวประเภทสอง หลอกลงทุนผลิตชุดตรวจ ATK

รวบสาวประเภทสอง หลอกลงทุนผลิตชุดตรวจ ATK

สนามข่าว 7 สี – ตำรวจรวบสาวประเภทสอง หลอกเหยื่อร่วมลงทุนผลิตชุดตรวจ ATK ระบุมีการจ้างโรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกในการผลิต แต่เมื่อได้เงินทุนมาแล้ว ได้นำไปเล่นพนันจนหมดตัว มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกสาวประเภทสองรายหนึ่ง หลอกให้ร่วมลงทุนผลิตชุดตรวจ ATK โดยหลอกว่าจะมีการว่าจ้างโรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกในการผลิต แต่ปรากฏว่าเมื่อผู้เสียหายตัดสินใจร่วมลงทุนไป สาวประเภทสองคนดังกล่าวได้นำเงินนำไปเล่นพนันจนหมดตัว กระทั่งเดือนมิถุนายน 2565 ผู้ต้องหาก็หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

โดยเรื่องที่เกิดขึ้นตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีผู้เสียหายทั่วประเทศ ไม่ต่ำกว่า 30 คน ที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน มีมูลค่าเสียหายรวมกว่า 20 ล้านบาท โดยสาวประเภทสองได้ใช้วิธีการพูดคุยเข้าหาผู้อื่นทำให้เกิดความสนิทสนม ก่อนชักชวนร่วมลงทุน

หลังผู้เสียหาย รู้ว่าถูกหลอกได้เข้าแจ้งความ และพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ได้ขออนุมัติศาลแขวงพระนครเหนือ ออกหมายจับสาวประเภทสองอายุ 30 ปี ในข้อหาฉ้อโกง นอกจากนี้ยังมีอีกไม่ต่ำกว่า 10 คดี พนักงานสอบสวนท้องที่ต่าง ๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายจับผู้ต้องหารายนี้ อาศัยสถานการณ์โรคระบาด ซ้ำเติมหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุนผลิตชุดตรวจสอบโควิด-19 สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จนมีเหยื่อโพสต์โลกโซเชียลติดตามตัวจำนวนมาก

กระทั่งเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) ตำรวจได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้เข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาญจนบุรี จึงนำตำรวจชุดปฏิบัติการ PCT บุกจับกุมตัว

โดยผู้ต้องหาให้การว่า ตนเองจะเข้าไปตีสนิทกับคนมีฐานะดี โดยหลอกว่าจะนำเงินไปลงทุนเพื่อซื้อชุดตรวจ ATK โดยจะปลอมใบเสนอราคาไปให้กับผู้เสียหายเพื่อให้หลงเชื่อ แต่ความจริงไม่ได้นำเงินไปซื้อชุดตรวจ แต่นำเงินไปเล่นพนันออนไลน์

ทั้งนี้ผู้ต้องหายอมรับว่า ตนเองแทงหวย 3 ตัวแม่น และเมื่อได้เงินกำไรก็จะคืนไปยังผู้เสียหายตามรอบบิลที่ตกลงกัน เสมือนว่ามีการขายชุดตรวจ ATK จริง ๆ กระทั่งเมื่อถึงเดือนมิถุนายน 2565 นำเงินที่หลอกผู้เสียหายมาเล่นพนัน แต่ตนเสียจนเงินหมดตัว จากนั้นก็ไล่ยืมคนอื่น ๆ จนสุดท้ายเหลือเงินติดตัวเพียง 50,000 บาท และไม่สามารถชดใช้เงินให้ใครได้ จึงเริ่มปิดช่องทางการติดต่อ และหลบหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และนำอุปกรณ์สื่อสารเครื่องเก่าไปขาย

หลังการจับกุม ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหามาที่ สน.บึงกุ่ม เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ได้มีผู้เสียหายหลายรายได้มารอเพื่อพบ และทวงหนี้กับผู้ต้องหา ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ได้รับตัวผู้ต้องหาและทำการสอบสวนขยายผลต่อไป

ขณะที่พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 บอกว่า ช่วงเหตุการณ์โควิด-19 มิจฉาชีพมักจะฉวยโอกาสหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อใน 3 ลักษณะ คือ ใช้ความสนิท โดยจะใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการเข้าหาเหยื่อ สร้างคอนเน็กชันกับเหยื่อ จากนั้นจะสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะตบท้ายด้วยการสร้างความโลภให้กับเหยื่อ จึงเข้าสู่กระบวนการหลอกลวง

จึงขอเตือนประชาชนว่าการตัดสินใจลงทุนต่าง ๆ นั้น ต้องมองให้ถึงหลักการและเหตุผลที่แท้จริงของการลงทุน และผู้ใดถูกหลอกให้ลงทุนชุดตรวจสอบ ATK โดยเฉพาะในภาคตะวันออก บางแสน พัทยา ชลบุรี ให้ติดต่อสืบสวน ภาค 2 ผ่านทางเพจ หรือ Facebook

เรื่องล่าสุด