วันที่ 23 ม.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนแสนสุข อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในบ้านในพื้นที่บ้านสุขสำราญ หมู่ที่ 13 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณด้านหลังของตัวบ้านพบร่างของ นายเอียด งามเกษม อายุ 65 ปี นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด พร้อมอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. ตกอยู่ใกล้ศพ โดยมีร่องรอยถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับด้านขวา นอนหงาย สวมเสื้อกันหนาวสีกลมท่า กางเกงขาสั้น
ทั้งนี้สาเหตุเบื้องต้นจากการสอบถามทราบว่า ช่วงเวลา 08.30 น. ผู้ตายได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระบอกเดียวกัน ไปก่อเหตุยิง “นางสิริขวัญ เลิศการัตน์” อายุ 44 ปี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านสุขสำราญ ซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียงกัน กระสุนเข้าที่บริเวณแก้มซ้าย ขณะที่ “นางสิริขวัญ” กำลังจะขับรถไปทำงาน ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราช ก่อนที่ “นายเอียด” จะกลับมาบ้านแล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่ชนวนเหตุนั้น เบื้องต้นทาง ร.ต.อ.สิริมา เอื้องคำ สารวัตรสอบสวน สภ.ดอนแสนสุข เจ้าของคดี สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า นายเอียด ผู้เสียชีวิตน่าจะมีเรื่องทะเลาะกันอย่ารุนแรงกับ นางสิริขวัญ จึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงนางสิริขวัญ และกลับมายิงตัวเองที่บ้านพักเพื่อหนีความผิด ส่วนสาเหตุเรื่องของการที่ทั้งสองมีความขัดแย้งกันที่แท้จริงนั้นจะทำการสอบสวนต่อไป
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ย้อนกลับไปยังบ้านของ “นายเอียด” ผู้เสียชีวิต “นางละมุน” (นามสมมติ) ภรรยาของนายเอียด เล่าว่า ส่วนตัวแต่งงานและอยู่กินกับทางผู้ตายมานานกว่า 10 ปี โดยต่างคนต่างเคยมีครอบครัวกันมาก่อน ที่ผ่านมาทางฝ่ายชายเป็นคนดูแลและช่วยทำมาหากิน ไม่เคยมีเรื่องราวทะเลาะวิวาทกัลใครในพื้นที่ ตลอดจนไม่ทราบว่าทางฝ่ายชายเองมีปัญหากับทางผู้บาดเจ็บหรือ “นางสิริขวัญ” มาก่อน ที่ผ่านมาเห็นว่าเขาเองก็รู้จักกันในฐานะคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน และบ้านก็อยู่ไม่ได้ห่างกัน
ทั้งนี้หลังจากเกิดเรื่อง ตนเองก็เพิ่งจะมาทราบจากปากของชาวบ้านในพื้นที่ว่าทางสามีของตนกับทางผู้บาดเจ็บสนิทสนมกัน ซึ่งในประเด็นนี้ยอมรับตนทำงานอยู่แต่ที่บ้าน ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน ตลอดขนทางสามีเองก็ไม่เคยเล่าหรือมีพฤติกรรมที่คล้ายว่ามีหญิงอื่นให้เห็น แต่จะเห็นแค่ว่าทางผู้บาดเจ็บมักจะมานั่งตั้งวงดื่มสังสรรค์กับเพื่อนบ้านเป็นประจำ ตลอดขนทางสามีของตนก็จะเข้าไปนั่งร่วมวงด้วย ช่วงหลัง ๆ ตนเองก็เคบเตือนว่าอย่าไปใกล้ชิดกับทางผู้บาดเจ็บมากเกินจะดูไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่ได้คิดถึงขั้นว่าเขาจะมีใจกัน เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่รู้ชีวิตจะเดินหน้าไปอย่างไร ก่อนหน้านี้ทางสามีจะเป็นคนที่นิสัยดี ข่วยเหลือทั้งการทำมาหากิน ขับรถพาไปหาหมอเป็นประจำ
เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 6 โมงกว่า นายเอียด ได้ขับรถจักยานยนต์ออกจากบ้านพร้อมโทรศัพท์ ตนก็ไม่รู้ว่าไปไหนเพราะไม่ได้ถาม ขณะที่ตนเองก็ได้มีการเตรียมของเพื่อทำขนมซาลาเปาขาย ก็วุ่น ๆ อยู่กับกาเตรียมของในห้องครัว กระทั้งช่วงประมาณ 8 โมงกว่า ทางสามีของตนก็ขับรถจักรยานยนต์กลับมาด้วยท่าทีปกติ และเดินไปทางหลังบ้านโรงจอดรถ ซึ่งเป็นจุดที่เขาเองยิงตัวตาย ทั้งนี้พอเห็นว่าสามีกลับมา ตนเองเลยตั้งใจจะชงกาแฟให้เขากินเพราะตนทำแบบนี้เป็นประจำ ขณะที่ชงเสร็จกำลังจะเดินเอาไปให้ทางสามี ปรากฎว่าตนได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนจำนวน 1 นัด ก่อนที่ภาพต่อมาจะเห็นว่าทางสามีฟุบล้มลงกับพื้น เลยตัดสินใจวิ่งไปดู และเรียกทางกู้ภัยมา พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้มาช่วย
อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบว่าทางสามีตนไปแอบคบหากับทางคนบาดเจ็บเมื่อไหร่ และไปก่อเหตุยิงกันเพราะทะเลาะอะไร มาทราบและตาสว่างก็หลังที่เขาเองยิงตัวตาย ส่วนปืนตนเองก็ไม่ทราบว่าปืนที่ก่อเหตุเป็นของใคร แต่ก่อนหน้านี้ 1-2 เดือน ทางสามีได้บ่นว่าอยากจะมีปืนเก็บไว้ป้องกันตัว แต่ตนเองก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะเอามาก่อเหตุดังกล่าว
นางละมุน กล่าวต่อว่า ตนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า อาจจะมีส่วนนี่มาจากคำสาบานเพราะก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ปี โดยตอนนั้นตนเองกับทางผู้ตายตกลงปลงใจจะคบหาและอยู่กินด้วยกัน โดยทางสามีได้สัญญาและสาบานต่อหน้ารูปของแม่ตนที่เสียชีวิตไปแล้ว ว่าจะรักและจะมีตนเป็นคนสุดท้าย หากว่ามีหญิงอื่นหรือนอกใจ ขอให้มีอันเป็นไป
ด้าน “นายศรราม” (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของผู้ตาย และเป็นคนที่เห็นคนตายคนสุดท้ายก่อนจะมีการยิงตัวตาย โดยทางเจ้าตัวระบุว่า ช่วงประมาณ 8 โมงกว่า ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่บ้านผิงไฟในช่วงเช้า ซึ่งจุดที่ตนนั่งอยู่นั้นจะติดกับระเบียงบ้านของคนตาย จู่ ๆ ทางคนตายหรือ นายเอียด ก็ได้เดินมาเกาะข้างรั้วและเอาใบหน้าลอดมาที่ช่องว่างระหว่างกำแพง พร้อมกับพูดว่า ไปแล้วนะ ไปก่อน ซึ่งตอนนั้นตนเองก็นึกว่าทางคนตายนั้นมาบอกจะไปเยี่ยมญาติที่ต่างอำเภอ นอกพื้นที่ เลยบอกว่าโชคดี เดินทางปลอดภัย พร้อมโบกมือลาให้ 1 ที ก่อนที่จะเห็นผู้ตายเดินไปทางหลังบ้าน แต่ก็ไม่ได้สนใจหรือคิดว่าเขาจะก่อเหตุยิงตัวเอง
ผ่านไปประมาณ 10 กว่านาทีก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหล่นใส่หลังคา คล้ายเสียงกระแทกอย่างแรง เลยคิดว่าลูกมะพร้าวหล่นใส่หลังคาบ้านผู้ตาย สุดท้ายจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงทางภรรยาของผู้เสียชีวิตตะโกนกรี๊ดแหละร้องขอความช่วยเหลือ ตนเลยรีบวิ่งไปดูปรากฎว่าทางผู้ตายเองนอนจมกองเลือดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ต่อมาทางทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับทาง “นายธัญชนก อึ้งสังวร ” อายุ 40 ปี เป็นเพื่อนบ้านของผู้บาดเจ็บและเป็นบุคคลที่ผู้บาดเจ็บได้โทรหาเป็นคนแรก โดยทางเจ้าตัวได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ตนเองได้รับโทรศัพท์จาก นางสิริขวัญ ผู้บาดเจ็บ โทรมาบอกว่า “มาช่วยพี่หน่อย พี่โดนยิง” ตนจึงถามสถานที่ว่าอยู่ที่ไหน เขาเองตอบแค่ว่าอยู่ตรงศาลาประชาคมในหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากบ้านของคนเจ็บเองประมาณ 400 เมตร ตนเองรีบวางสายเเละขับรถออกไป
ปรากฎว่าไปถึงพบผู้บาดเจ็บนอนน้ำตาซึมจมกองเลือดอยู่ พบว่าตรงโหนกแก้มซ้ายมีรูกระสุน ตนจึงถามว่าใครเป็นคนยิง แต่ผู้บาดเจ็บไม่ตอบได้แต่ร้องไห้ ตนเองจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย ก่อนที่กู้ภัยจะเข้ามาช่วยเหลือภายหลัง ตอนนั้นทางผู้บาดเจ็บเองก็ยังมีสติแต่ไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากมีอาการปวดบาดแผลตลอดจนมีเลือดไหลอยู่ตลอดเวลาจากบาดเเผล
ทั้งนี้ในช่วงที่ตนเดินทางไปก็ไม่พบร่องรอยคนก่อเหตุ มาทราบภายหลังจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าคนก่อเหตุคือ “นายเอียด” ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันก็มายิงตัวเองเสียชีวิตอีกคน เพราะว่าก่อนเกิดเรื่องมีคนได้ยินเหมือนว่าทางนายเอียดกับคนบาดเจ็บได้จอดรถและพูดคุยกันก่อนที่ทั้งคู่จะมีปากเสียงกัน หนำช้ำทางตนเองเพิ่งจะทราบว่าทั้งคู่สนิทสนมกันหลังเกิดเรื่อง ยืนยันว่าก่อนจะเกิดเรื่องไม่ทราบมาก่อน จะเห็นว่าทั้งคู่ก็ปกติไม่ได้ดูสนิทสนมเกินกว่าคนรู้จัก