เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.อิทธิพร  โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ,iร่วมกันแถลง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 , พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รอง เลขาธิการ ปปส. พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2 , พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา รอง ผบก.สส.ภ.2 และ พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.ภ.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฎิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.2 และตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น เป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มสิทธิชัย หรือต้อล มานะดี จำนวน 16 เป้าหมาย ในเขตพื้นที่ จังหวัดชลบุรี 13 เป้าหมาย , นครปฐม 1 เป้าหมาย และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1 เป้าหมาย 

พล.ต.อ.รอย กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายวีรยุทธ หรือวัต ประชุมสาย พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 10.6 กก. , ยาบ้า จำนวน 51,800 เม็ด , คีตามีน จำนวน 1 กก. ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 และ 2 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 60/31 ม.10 ต.บ้านบึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นำส่ง พงส.สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.อ.รอย  กล่าวอีกว่าตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ทางตำรวจภูธรภาค 2 มีคำสั่งที่ 177/2563 ลง 12 มิ.ย.64 แต่งตั้งเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนเครือข่ายยาเสพติดของ นายวีรยุทธ หรือวัต ประชุมสาย และสามารถขยายผลออกหมายจับนายภาณุพงศ์ หรือตุ๊ อุ่นประดิษฐ์ กับพวกรวม 4 นาย ผู้ร่วมขบวนการ ในข้อหา “สมคบฯ และ สนับสนุนตาม พรบ. มาตรการฯ , ครอบครองยาบ้า ยาไอซ์ เพื่อจำหน่ายและมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (เคตามีน) ไว้เพื่อจำหน่าย”  ต่อมาเมื่อวันที่  29 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นยึดทรัพย์เครือข่าย “แก๊งเหลือเชื่อ” ได้เพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนเงินกว่า 15 ล้านบาท ระหว่างการสืบสวนจับกุม ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.ย.64 ชุดยาเสพติด ศอ.ปส.ภ.2 และ บก.สส.ภ.2 จับกุมนายณัฐพงษ์ หรือเบียร์ พร้อมยาบ้า 1,815 เม็ด , ยาไอซ์ 57 กรัม นำส่ง พงส.สภ.บางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา

รองผบ.ตร. กล่าวอีกว่าเมื่อวันที่ 21 ก.ย.64 ชุด ยาเสพติด ศอ.ปส.ภ.2 และ บก.สส.ภ.2 จับกุม นายเชาวลิต หรือก้อ พร้อมด้วยของกลาง คีตามีน ประมาณ 10.5 กรัม , นำส่ง พงส.สภ.บางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา  เมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 จนท.ตร.สภ.เมืองชลบุรี จับกุมนายศุภวิชญ์ หรือไกด์ กัวหา  พร้อมของกลางยาบ้า 787,000 เม็ด  ยาไอซ์ 1 กก. , ยาคีตามีน จำนวน 7 กก. และอาวุธปืนสงครามอาการ์ นำส่ง พนักงานสอบสวน.สภ.เมืองชลบุรี

พล.ต.อ.รอย  กล่าวว่าต่อมา พล.ต.ต.อิทธิพร  ผอ.ศอ.ปส.ภ.2 สั่งการให้สืบสวน ขยายผลจับกุม และสืบทรัพย์ เครือข่ายผู้มีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องทั้งหมด จนมีพยานหลักฐานและความเชื่อมโยงบ่งชี้อันน่าเชื่อว่า “แก๊งเหลือเชื่อ” เป็นเครือข่ายยาเสพติดที่เชื่อมโยงกันในหลายพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง โดยมี นายสิทธิชัย หรือต้อล มานะดี เป็นหัวหน้าระดับสั่งการ ซึ่งมีนายเกริกชัย รักวงษ์วาน , นายชาญเมธา นกหงส์ , น.ส.ปัทมา  ตรียานนท์ , น.ส.วรินธร ศรีวิลัย กับพวก อีกจำนวน 8 คน ทำหน้าที่ด้านการเงิน และมีการใช้บัญชีม้าในการรับโอนเงินค่ายาเสพติด อีกจำนวนมากซึ่งศาลจังหวัดชลบุรี และศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้อนุมัติออกหมายจับนายสิทธิชัย หรือต้อล ฯ ในข้อหา “สมคบ , สนับสนุนหรือช่วยเหลือความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด, สมคบสนับสนุนฟอกเงิน” ส่วนบุคคลอื่นในเครือข่ายล้วนแล้วแต่มีหมายจับข้อหา “สมคบ ป.ยาเสพติด พ.ศ.2564 และสมคบ ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ.2542” รวมทั้งสิ้น 26 คน จำนวน 31 หมายจับ จากการสืบทรัพย์ฯ เบื้องต้น พบว่ามีทรัพย์สินมูลค่าประมาณกว่า 80 ล้านบาท จึงขออนุมัติขอหมายค้นต่อศาลเพื่อตรวจค้นและจับกุมเป้าหมายบุคคลเพื่อดำเนินการจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สิน ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564

พล.ต.อ.รอย  พล.ต.ท.ธิติ และ พล.ต.ต.อิทธิพร  ร่วมกันกล่าวว่า พล.ต.ต.ธีรเดช  นำกำลังปฏิบัติจับกุม 9 ราย  1. นายณัฐวุฒิ กาญจนเกตุ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.80/2565 ลง 18 ก.พ.65 ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินฯ” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 นำส่ง พงส.สภ.แสนสุข จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.65  2. นายสุภกฤต เรืองฤทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.82/2565 ลง 18 ก.พ.65 ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินฯ” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 นำส่ง พงส.สภ.แสนสุข จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 25 ก.พ.65  3. น.ส.วรินธร ศรีวิลัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.91/2565 ลง 21 ก.พ.65 ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินฯ” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 นำส่ง พงส.สภ.แสนสุข จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.65   4. น.ส.ศิริพร แสงสน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.92/2565 ลง 21 ก.พ.65 ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินฯ” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 นำส่ง พงส.สภ.แสนสุข จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.65  5. นายเกริกชัย  รักวงษ์วาน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.94/2565 ลง 21 ก.พ.65 ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินฯ” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 นำส่ง พงส.สภ.แสนสุข จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.65  6. น.ส.ภาวิณี  เขาเขียว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.82/2565 ลง 21 ก.พ.65 ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับฟอกเงินฯ” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 นำส่ง พงส.สภ.บางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 1 มี.ค.65  7.กับพวกอีก 3 ราย (อยู่ระหว่างการจับกุม)  ตรวจยึดทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดของ นายสิทธิชัย หรือต้อล มานะดี ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ  ประกอบด้วย  1.) อสังหาริมทรัพย์พร้อม ยานพาหนะ และสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ อ.เมือง จว.ชลบุรี , อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี 8 หลัง มูลค่ารวมประมาณ 52,314,098 บาท  2.) อสังหาริมทรัพย์พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม มูลค่ารวมประมาณ 620,000 บาท  3.) อสังหาริมทรัพย์พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่ารวมประมาณ 18,790,000 บาท4.) เงินสด จำนวน 612,800 บาท และ 5.) อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน รวม 83 นัด  รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 72,586,898 บาท

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า  ยาเสพติดเป็นมหัตภัยร้ายแรง  ทำลายครอบครัว ทำลายประเทศชาติ  ฝากให้ดูแลคนในครอบครัวให้ดี และช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่   หากมีข้อมูลเบาะแสยาเสพติด  สามารถแจ้งมาได้ที่  ศูนย์ปราบปรามยาเสพติด บก.สส.ภ.2 เลขที่ 101 ม.8 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จว.ชลบุรี 20000  โทร 038 – 276724  โดยข้อมูลของท่านจะถูกปิดเป็นความลับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนในทางลับ เพื่อจะได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดและตรวจยึดทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องตามมาตรการทางกฎหมายต่อไป