เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม พ.ต.ท.อาทิตย์ สอทา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจาก อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือเขตห้วยแร้ง อ.เมืองตราดว่า มีเหตุยิงกันที่ซอยแสนสุข หมู่ 10 ต.ห้วยแร้ง อ.เมืองตราด หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชา ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังหนึ่ง ต.ห้วยแร้ง มีสวนสับปะรดอยู่หน้าบ้าน พบร่องรอยต่อสู้ รอยเลือดหยดที่พื้น และพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 นัด นอกจากนี้ยังพบรองเท้าของผู้ก่อเหตุตกอยู่ 1 ข้าง
ต่อมา พ.ต.ท.ประเสริฐ ฤทธิราช รอง ผกก.ป.พร้อม ร.ต.อ.ไชยา สนั่นเมือง เดินทางมายังที่เกิด เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนร้อยเวรประจำวันจะมาเก็บรายละเอียดที่เกิดเหตุ
นางอังคณา จันทร์ดี อายุ 43 ปี ที่เป็นแม่ยายของนายอิศรา ปินาถา อายุ 33 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เมื่อเช้าตอนที่ตนเองกำลังล้างจานอยู่ในครัวได้ยินเสียงปืนดัง ปัง จำนวน 2 ครั้ง จึงได้วิ่งออกไปดูพบลูกเขยกำลังวิ่งกลับเข้าบ้านตนเองพร้อมมีรอยบาดแผลที่โคนขวา และมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด จึงให้วิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำและให้ล็อคประตู และตนเองก็ล็อคประตูหลังบ้านอีกชั้นเพื่อป้องกันคนร้ายตามมาซ้ำ
นางอังคณาเล่าอีกว่า ต่อมาทราบว่า คนที่ยิงคือนายโอรส กุลนารา อายุ 56 ปี เป็นญาติฝ่ายสามีโดยลูกสาวและลูกเขยเรียกว่าปู่ นายโอรสพยายามมาจีบตนหลังสามีเสียชีวิตไป 2 ปีแล้ว แต่ตนไม่เล่นด้วย ส่วนตนหลังสามีเสียชีวิตก็ไม่ได้มีแฟนใหม่ บ้านและที่ดินทำกินทั้งหมดก็ตกเป็นของลูกสาวและลูกเขย ทั้งสองคนก็ช่วยกันทำมาหากิน แต่มักจะถูกนายโอรสพูดว่าโกงที่ดิน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง จนลูกเขยทนไม่ไหวถามนายโอรสให้หยุดพูดได้แล้ว ซึ่งเป็นเหตุให้มีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง กระทั่งมาเกิดเหตุถูกนายโอรสยิงในครั้งนี้
ด้านนางสาวสิริยาลักษ์ พันธุ์พิริยะ ภรรยานายอิศราที่เดินทางมาที่โรงพยาบาลตราด เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเข้าไปทำงานที่สวนสับปะรดใกล้บ้านและจะออกไปซื้อกาแฟ พบกับปู่ (นายโอรส) ที่บาดหมางกันมานานนับปี และไม่ชอบหน้ากันมานานแล้ว เกิดมองหน้ากันแล้วทะเลาะต่อสู้ทำร้ายร่างกายกัน ด้วยความไม่พอใจ ทำให้อีกฝ่ายคือปู่เดินกลับไปบ้าน กลับมาอีกทีก็ไล่ยิงสามีของตนจนหมดโม่ แล้วก็บรรจุกระสุนใหม่อีก สามีตนหนีกลับบ้าน โดนกระสุนปืนเข้าที่ขาขวา ส่วนสาเหตุผิดใจบาดหมางกัน เพราะพอพ่อเสียชีวิต ปู่คิดจีบแม่ของตนเอง แต่ตนและสามีขัดขวาง ทำให้ปู่ไม่ชอบหน้า บาดหมางมาประมาณ 1-2 ปีแล้ว ส่วนปมขัดแย้งที่ดินก็มีส่วนเหมือนกัน ทั้งที่เป็นที่ดินของตัวเอง ส่วนปู่ลั่นไกจนหมดโม่แล้ว ก็หลบหนี
“อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องที่ดินสปก.ที่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บทำกินอยู่ เป็นที่ดินของนางสาวสิริยาลักษณ์ ที่ทำกินต่อจากพ่อ ซึ่งเป็นสวนมังคุดที่อยู่ด้านข้างบ้านพัก รวมทั้งที่ดินด้านหน้าบ้านปลูกสับปะรด และเป็นที่ดิน สปก.มีการซื้อขายกันด้วยปากเปล่าจากเจ้าของเดิม โดยมีการทำกินร่วมกันแต่เมื่อสามีของนางอังคณาเสียชีวิต นายโอรสพยายามจะเข้ามาจีบมาเป็นภรรยาเพื่อจะครอบครองที่ดินดังกล่าว แต่นางอังคณาไม่เล่นด้วย ทำให้นายโอรสมีปากเสียงทะเลาะกับนางอังคณาและหลานๆ อยู่บ่อยครั้งจนเกิดเหตุการณ์วันนี้ขึ้น”
ต่อมาในเวลา 10.00 น.นายโอรส กุลนารา ได้เดินทางมามอบตัวกับพ.ต.อ.นิพล คงเกียรติก้อง ผกก.สภ.เมืองตราด ซึ่งได้ทำการสอบปากคำในเบี้องต้น ซึ่ง พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ตราดได้ให้ความสนใจในคดีนี้ จึงเดินทางมาสอบปากคำนายโอรส กุลนาราด้วยตนเองที่ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนยิงนายอิสรา ปินาถาเอง ด้วยความโกรธเคืองทั้งเรื่องที่ดิน และเรื่องส่วนตัวมานานแล้ว
หลังจากจบการสอบปากคำแล้ว พ.ต.ท.อาทิตย์ สอทา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตราด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจนำตัวนายโอรส กุลนารา ไปทำแผนประกอบคำสารภาพที่สถานที่เกิดเหตุ โดยมีนายชัยยันต์ เรืองขจิต กำนันตำบลห้วยแร้ง ชาวบ้าน และญาติพี่น้องของผู้ได้รับบาดเจ็บเฝ้าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ