Site icon บางแสน

ชลบุรีเปลี่ยน 'สนธยา' แดงฟื้น 'สุชาติ' เหลืองฟุบ

logoline

เกาะติดข่าวสาร>> คมชัดลึก ออนไลน์

สนามชลบุรีไม่เหมือนเดิม ‘สนธยา’ โหนอุ๊งอิ๊งมาแรง สบช่องฟื้นพลังบ้านใหญ่เหมือนปี 2548 สวนทาง ‘สุชาติ’ ปลุกเสื้อเหลือง กู้วิกฤตศรัทธา รบทั้งแดงทั้งส้ม

ขาลงเสื้อเหลืองเมืองชล สนธยา สวมเสื้อแดงมาแรง สบช่องฟื้นพลังบ้านใหญ่เหมือนปี 2548 ทิ้ง สุชาติ แบกลุงตู่กู้วิกฤตศรัทธา

เปลี่ยนเพื่ออยู่รอด สนธยา เรียนรู้จากอดีต ไม่ยึดติดสีเสื้อ สุชาติ เจอศึกรอบทิศ ต้องรบทั้งแดง ทั้งส้ม

นิด้าโพลสำรวจคนชลบุรีครั้งล่าสุด ส่งผลหุ้นบ้านใหญ่แสนสุขราคาพุ่ง สนธยา คุณปลื้ม มั่นใจทีมเพื่อไทย กวาดเก้าอี้ สส.ชลบุรี เหมือนการเลือกตั้งปี 2548 ซึ่งเวลานั้น กำนันเป๊าะ พาลูกๆ และทีมงานมาสังกัดพรรคไทยรักไทย 

สืบเนื่องจากนิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องคนชลบุรีเลือกพรรคไหน ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-14 ก.พ.2566 ปรากฏว่า อันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทย ตามมาด้วยพรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ

สำหรับหัวข้อบุคคลที่คนชลบุรีจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 31.00 ตามมาด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 18.82 และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 17.36

ผลสำรวจข้างต้นก็สอดรับกับนิด้าโพลเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเปิดเผยผลสำรวจเรื่องคนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนภาคตะวันออก ทำการสำรวจเมื่อ 7-10 พ.ย.2565 ปรากฏว่า คนภาคตะวันออก เลือกคนเป็นนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ร้อยละ 25.09 แพทองธาร ชินวัตร ,อันดับ 2 ร้อยละ 16.64 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และอันดับ 3 ร้อยละ 13.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผลแห่งนิด้าโพล คงเป็นโจทย์ใหญ่ที่เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น แม่ทัพรวมไทยสร้างชาติ ชลบุรี ต้องรีบแก้ไข ปลุกพลังเสื้อเหลืองเมืองชลให้ลุกขึ้นมาสนับสนุนลุงตู่อีกหน

จริงๆแล้ว ผลการเลือกตั้งปี 2562 เริ่มส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในภาคตะวันออก เมื่อพรรคอนาคตใหม่ ได้ สส.ในชลบุรี,ฉะเชิงเทรา,จันทบุรี และตราด รวมแล้ว 9 คน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เหลือ สส.แค่ 3 คนใน จ.ระยอง

สายลมเปลี่ยนทิศ

บทเรียนสำคัญของ สนธยาบ้านใหญ่เมืองชลคือ ความปราชัยในการเลือกตั้งปี 2550 ท่ามกลางสงครามสีเสื้อที่เชี่ยวกราก และการกลับมาในปี 2554 พร้อม สส.หน้าใหม่ชื่อ สุชาติ

หลังรัฐประหาร 2549 กระแสต้านระบอบทักษิณเหมือนไฟลามทุ่ง และชลบุรีก็เป็นฐานที่มั่นของคนเสื้อเหลือง

ดังนั้น การเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี ปี 2550 พรรคประชาธิปัตย์ จึงชนะยกจังหวัด กวาดเก้าอี้ สส. 8 ที่นั่ง มีผู้แทนฯหน้าใหม่หลายคน ได้แก่ มานิตย์ ภาวสุทธิ์ ,พจนารถ แก้วผลึก, ฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์, ไมตรี สอยเหลือง และสรวุฒิ เนื่องจำนงค์

พ.ศ.โน้น หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบ กลุ่มบ้านใหญ่แสนสุขก็ย้ายกลับไปพรรคชาติไทย แต่สุดท้ายพ่ายกระแสเสื้อเหลือง  

สนธยา และพี่น้องตระกูลคุณปลื้ม สรุปบทเรียนความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น หันไปตั้งพรรคพลังชล ชูแนวทางแบบบ้านของเรา พรรคของเรา

การเลือกตั้งปี 2554 กลุ่มบ้านใหญ่ชลบุรี ในนามพรรคพลังชล กลับมาชนะเลือกตั้งระดับชาติ ได้เก้าอี้ สส.ชลบุรี 6 ที่นั่ง จาก 8 ที่นั่ง

นักการเมืองท้องถิ่นชลบุรีหน้าใหม่ชื่อ สุชาติ ชมกลิ่น ได้แจ้งเกิดในปีนั้น และคนบ้านใหญ่แสนสุข คงนึกไม่ถึงว่า วันนี้ บ้านใหญ่จะต้องมาทำศึกกับทีมบ้านใหม่ของสุชาติ

ภูมิทัศน์การเมืองเปลี่ยน

เลือกตั้งสมัยที่แล้ว สนธยา จำต้องเลือกข้าง 3 ป.เพื่อความอยู่รอดของตระกูลคุณปลื้ม ซึ่งทีมบ้านใหญ่ก็ลงสนามเลือกตั้งในนามพลังประชารัฐ

ผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ได้สะท้อนว่าภูมิทัศน์การเมืองชลบุรีกำลังเปลี่ยน ไม่ใช่ยุคเสื้อเหลือง หรือยุคแดงทั้งแผ่นดิน ขณะที่พรรคก้าวไกล กลายเป็นทางเลือกใหม่

พลันที่พรรคเพื่อไทย ขายแบรนด์อุ๊งอิ๊งแพทองธาร เลือดใหม่ชินวัตร มีเสียงตอบรับอย่างกว้างขวาง ตระกูลคุณปลื้ม จึงตัดสินใจอำลา 3 ป. หันกลับไปหาทักษิณ ชินวัตร อีกครั้ง

กรณีอิทธิพล คุณปลื้ม ยังเป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรม อยู่ในรัฐบาลประยุทธ์ จนครบวาระ ก็เป็นไปตามข้อตกลงของครอบครัวคุณปลื้ม หลังจากนั้น อิทธิพลคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคใด

การเลือกตั้ง สส.ชลบุรี สมัยหน้า จะพิสูจน์ให้เห็นว่า พลังเสื้อเหลืองหดหายไปแล้วจริงหรือไม่ บ้านใหญ่ชลบุรีจะฟื้นกลับได้หรือเปล่า

Exit mobile version